แนะนำ 5 ผัก ช่วยลดไขมันในเลือด นี่คือรายชื่อ 5 ชนิดของผักที่ช่วยลดระดับไขมันในเลือด
สารบัญหน้า
ทราบหรือไม่ว่าการบริโภคอาหารที่รวมถึงคอเลสเตอรอลมากเกินไปอาจส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดเพิ่มขึ้น ซึ่งนั่นก็เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจขาดเลือด!
โรคหัวใจขาดเลือดเป็นโรคร้ายแรงที่อาจไม่สามารถรักษาได้ทันเมื่อถึงขั้นตอนรุนแรง มันเป็นสถานะที่หัวใจไม่ได้รับเลือดเพียงพอในขณะที่ทำงานหนัก กำลังเล่นกีฬา หรือแม้แต่ในระหว่างการพักผ่อน อาการของโรคหัวใจขาดเลือด
วันนี้เรามาแบ่งปันคำแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับอาหารที่ช่วยให้หัวใจเราแข็งแรง และป้องกันโรคหัวใจขาดเลือดได้มาฝากคุณ
1. บรอกโคลี (Broccoli)
บรอกโคลีมีสารกลุ่มกลับโปรตีนที่ช่วยลดการสะสมของไขมันในเลือด และเสริมสุขภาพของหัวใจ การรับประทานบรอกโคลีเป็นส่วนหนึ่งของอาหารสุขภาพและอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อหลายโรคร้ายต่อสุขภาพในร่างกายของคุณได้
- บรอกโคลีเป็นแหล่งวิตามิน C, K, แคลเซียม, และโพแทสเซียม
- มีสารต้านอนุมูลอิสที่ช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์
- สารกลุ่มกลับโปรตีนช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็ง
- ช่วยปกป้อง DNA จากความเสียหาย
- ลดการอักเสบในร่างกาย
- มีสารอาหารหลากหลายที่สำคัญสำหรับสุขภาพ
2. สับปะรด (Pineapple)
สับปะรดมีสารไบโอแอคทีฟ ที่ช่วยลดระดับไขมันในเลือด เมื่อคุณกินสับปะรด (Pineapple) คุณสามารถทานได้ในหลายวิธีเช่นตัดเป็นชิ้น, ทำเป็นน้ำผลไม้, ผสมกับอาหาร, ทำเป็นสมูทตี้, หรือใช้ในการทำไอศกรีมหรือเบเกอรี่ สับปะรดมีรสชาติหวานเปรี้ยวและเสมอรส ซึ่งทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ ของคุณในช่วงเวลาต่างๆ ของวัน สนุกกับการเพิ่มสับปะรดในเมนูอาหารของคุณ
3. แคลเซียมซิเลเนียม (Kale)
เมื่อคุณกินแคลเซียมซิเลเนียม (Kale) คุณสามารถทานได้ในหลายวิธีเช่นตัดเป็นชิ้นแล้วใส่ในสลัด, ผสมในสูตรพิเศษ, ทอดหรืออบเพื่อทำเป็นสนเขียงแคลเซียมซิเลเนียม (Kale chips), สมูทตี้ผลไม้, ผสมกับอาหารอื่น, หรือนำมาทำน้ำผลไม้หรือน้ำมะเขือเทศในเวลามื้อเช้า แคลเซียมซิเลเนียมเป็นอย่างมากที่จะเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และควรรวมเข้ากับเมนูอาหารของคุณเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น แคลเซียมซิเลเนียมมีสารที่ช่วยลดคลอเรสเตอรอลและไตรกลีเซอริดในเลือด
4. กระเจี๊ยบ (Spinach)
กระเจี๊ยบมีสารคารอทีนอยด์ที่ช่วยลดการสะสมของไขมันในเลือด คุณสามารถรับประทานกระเจี๊ยบได้โดยใส่ในสลัด, น้ำผลไม้, หรือสูตรพิเศษ เพิ่มลงในอาหารอื่น เช่น แกงหรือสตูว์ หรือทำเป็นสมูทตี้ผลไม้ เพื่อเพิ่มสารอาหารและความสดชื่นในเมนูอาหารของคุณ. กระเจี๊ยบมีประโยชน์สำหรับสุขภาพโดยรวมและควรรวมเข้ากับอาหารประจำวันของคุณ กระเจี๊ยบมีสารแลดสี (lutein) และแซนทิน (zeaxanthin) ที่ช่วยปกป้องดวงตาจากการเสื่อมสภาพและช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคต้อหิน สารสองชนิดนี้ทำหน้าที่กรองแสงและป้องกันความเสียหายจากรังสี UV ได้ดี และ กระเจี๊ยบมีใยอาหารและมีน้อยแคลอรี่ ช่วยในการควบคุมน้ำหนักและสร้างความรู้สึกอิ่ม.
5. กะหล่ำปลี (Cabbage)
กะหล่ำปลีมีสารกลุ่มกลับโปรตีนที่ช่วยลดการสะสมของไขมันในเลือด กะหล่ำปลีเป็นผักที่มีคุณค่าทางอาหารและสารอาหารหลากหลายซึ่งมีผลดีต่อสุขภาพของเราในหลายด้าน นี่คือบางเรื่องที่กะหล่ำปลีช่วยเรื่องนั้น ๆ ระบบภูมิคุ้มกันกะหล่ำปลีมีวิตามิน C และแอนติออกซิแดนท์ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เพื่อปกป้องจากการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ไม่ปกติและโรคต่าง ๆ. สุขภาพหัวใจ กะหล่ำปลีมีโฟเลตที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ โฟเลตช่วยลดการเกิดการตันไขมันในหลอดเลือดและลดความดันเลือดสูง ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำหรับโรคหัวใจ.ระบบย่อยอาหาร ใยอาหารที่มีอยู่ในกะหล่ำปลีช่วยส่งเสริมกระบวนการย่อยอาหารและการขับถ่าย ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น.
รักษาการเจริญเติบโต กะหล่ำปลีเป็นแหล่งของวิตามิน และแร่ธาตุที่สำคัญ เช่น วิตามิน แคลเซียม และโพแตสเซียม ที่เป็นสารอาหารที่ช่วยในกระบวนการเจริญเติบโตและรักษาสมดุลการเจริญเติบโตของร่างกาย.
สุขภาพผิว กะหล่ำปลีมีวิตามิน และแอนติออกซิแดนท์ที่ช่วยปกป้องผิวจากอันตรายของรังสี UV และป้องกันความเสียหายจากอนุมูลอิสระ. รักษาสายตา กะหล่ำปลีมีลูทีนที่ช่วยในการรักษาสายตา และลดความเสี่ยงของปัญหาสายตาที่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของอายุ เช่น สายตาสองชั้น.
นอกจากนี้ กะหล่ำปลียังมีคุณสมบัติต่าง ๆ ที่ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก ส่งเสริมกระบวนการย่อยอาหาร และปรับสมดุลระดับน้ำตาลในเลือด การรับประทานกะหล่ำปลีในอาหารประจำวันเป็นสิ่งที่ดีสำหรับสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจของคุณ
สรุป 5 ผัก ช่วยลดไขมันในเลือด
การรวมผักเหล่านี้ในอาหารประจำวันของคุณจะช่วยในการควบคุมระดับไขมันในเลือดและสุขภาพโรคหัวใจของคุณในระดับที่ดีขึ้นได้ ทั้งหมดเป็นผักที่ช่วยลดระดับไขมันในเลือดและป้องกันคอเลสเตอรอลสูงได้อย่างดี อย่างไรก็ตาม, การรักษาสุขภาพที่ดีต้องพิจารณาร่วมกับปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอีกด้วย เช่น การบริโภคอาหารที่มีไขมันน้อย, การรับประทานโปรตีนสูง เช่น ปลา, ไก่อก, และอาหารที่ไม่มีมัน รวมถึงการบริโภคผักและผลไม้อย่างสม่ำเสมอ เพิ่มกิจกรรมทางกายเข้าไปในชีวิตประจำวัน, ลดความเครียด, และให้เวลาการพักผ่อนเพียงพอ ทั้งนี้จะช่วยลดระดับไขมันในเลือดอย่างเต็มประสิทธิภาพอีกด้วย