5 อันดับต้นไม้ฟอกอากาศยอดฮิต ช่วยฟอกอากาศภายในบ้านให้สะอาดบริสุทธิ์
สารบัญหน้า
ฝุ่น PM 2.5 เป็นมลภาวะทางอากาศที่เหล่าคนเมืองต่างคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะต้องประสบพบเจอกันอยู่ทุกปี บางปีเจ้าฝุ่นจิ๋วนี่ก็กลับมาเยี่ยมเยียนชาวเมืองกันมากกว่าหนึ่งครั้ง และนอกจากฝุ่นควันแล้วยังมีมลภาวะทางอากาศอีกหลายชนิดที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจและสุขภาพร่างกายในด้านอื่นๆ แต่อย่าเพิ่งเป็นกังวลไป เพราะยังมีวิธีแก้ไขง่ายๆกันอย่างการปลูกต้นไม้ฟอกอากาศ ต้นไม้เหล่านี้เมื่อปลูกแล้วจะช่วยทำให้อากาศสะอาดมากขึ้น ทั้งยังมีความสวยงามจนใช้ตกแต่งบ้านได้ด้วย แต่ว่าต้นไม้ฟอกอากาศก็มีอยู่ด้วยกันหลายชนิดแล้วควรจะปลูกชนิดไหนกันดี วันนี้เราได้คัดเลือก 5 อันดับต้นไม้ฟอกอากาศมาฝากกัน
การเลือกต้นไม้ฟอกอากาศ
ต้นไม้ฟอกอากาศมีด้วยกันหลายสายพันธุ์ซึ่งจะต้องการการดูแลแตกต่างกันออกไป การเลือกให้เหมาะสมกับบ้านจึงเป็นสิ่งจำเป็น สิ่งแรกที่ควรพิจารณาคือ ความชื้นและแสงแดด ต้นไม้ฟอกอากาศบางชนิดชอบแสงแดด บางชนิดไม่ชอบแต่เจริญเติบโตได้ดีในที่ชิ้นๆ การรู้คุณสมบัติเหล่านี้จะช่วยให้จัดวางต้นไม้ได้ในตำแหน่งที่เหมาะสม เพราะถ้าสมมติต้นไม้ไม่ชอบแดดแต่ไปวางในที่แดดจัด ต้นไม้จะเหี่ยวเฉาหรือใบไหม้จนตายได้ ต่อมาคือการดูแลรักษา สำหรับใครที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลหรือคอยรดน้ำ ต้องเลือกต้นไม้ที่ดูแลง่ายและไม่ต้องรดน้ำเป็นประจำ เช่น พลูด่าง ลิ้นมังกร กระบองเพชร เป็นต้น ส่วนใครที่อยากได้ต้นไม้ฟอกอากาศที่สามารเสริมสิริมงคลให้กับบ้านได้ด้วย ขอบอกว่ามีไม้มงคลให้เลือกกันหลายชนิดเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น เศรษฐีเรือนนอก กวักมรกต ว่านเรียกทรัพย์ บันไดเศรษฐี กุมารเรียกทรัพย์ เป็นต้น สามารถเลือกซื้อกันได้ตามความชอบเลย
5 อันดับต้นไม้ฟอกอากาศ
ต้นไม้ฟอกอากาศที่วางขายกันอยู่ตอนนี้มีหลายประเภทมาก แต่ละประเภทก็ต้องการการจัดวางและการดูแลที่ไม่เหมือนกัน แล้วจะเลือกต้นไม้ชนิดไหนดี วันนี้เราได้คัดเลือกมาฝากกันแล้ว รับรองว่าต้องมีต้นไม้ที่ถูกใจกันอย่างแน่นอน
1. กระบองเพชร ต้นไม้ฟอกอากาศ
พืชทะเลทรายที่ได้รับความนิยมสูงสุด เนื่องจากมีหลากหลายสายพันธุ์ มีรูปทรงน่ารักมากมาย ดูแลง่าย ไม่ต้องรดน้ำบ่อย ไม่มีใบร่วงให้ต้องเก็บกวาด ไม่มีเวลาก็สามารถปลูกได้ กระบองเพชรเป็นพืชที่ชอบแสงแดด มีขนาดเล็ก โตช้า ปลูกได้แม้อยู่อาศัยในที่พักที่มีเนื้อที่จำกัด เพียงแต่ต้องจัดวางในจุดที่สัมผัสกับแสงแดดได้มากๆ จะช่วยฟอกอากาศและสังเคราะห์แสงได้ดียิ่งขึ้น
2. พลูด่าง ต้นไม้ฟอกอากาศ
พลูด่าง เป็นต้นไม้ฟอกอากาศที่ได้รับความนิยมตลาดกาล เพราะใช้ปลูกและจัดวางได้หลากหลายสถานที่ จะปลูกในดินหรือในน้ำก็ได้ แถมดูแลง่ายและยังราคาถูก จึงนิยมปลูกกันทั่วไป พลูด่างเป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีน้ำเยอะและมีแสงแดดรำไร ถ้าปลูกแล้วรดน้ำเป็นประจำ พลูด่างจะมีใบเขียวสดสวยงาม ช่วยลดมลภาวะทางอากาศได้เป็นอย่างดี
3. ต้นไม้ฟอกอากาศ มอนสเตอร่าแคระ
มอนสเตอราแคระ เป็นหนึ่งในต้นไม้ฟอกอากาศที่มาแรงมากในตอนนี้ ด้วยเอกลักษณ์ของใบที่ดูคล้ายรูปหัวใจแต่มีความเว้าแหว่งสวยงาม ใบเป็นมันเงา เจริญเติบโตในสภาพแวดล้อมของเมืองไทยได้เป็นอย่างดี ชอบแสงแดดรำไรและน้ำปริมาณปานกลาง อดทนต่อโรค ดูแลรักษาง่าย หากนำมาปลูกควรจัดวางในพื้นที่โล่ง ไม่โดนแดดจัดมากนักแต่มีอากาศถ่ายเทสะดวก มอนสเตอราจะเติบโตได้ดี ช่วยให้บ้านสดชื่นและปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในบ้านให้ดีขึ้นได้
4. ต้นไม้ฟอกอากาศ ยางอินเดียดำ
ยางอินเดียดำเป็นต้นไม้ที่โดดเด่นในเรื่องความสวยงามไม่เหมือนใคร เพราะทั้งต้นและใบนั้นมีสีเข้มจัดจนเกือบดำ ใบเป็นมันสวยงาม ใช้เป็นไม้ประดับบ้านได้เป็นอย่างดี ในแง่ของการฟอกอากาศยางอินเดียดำจะช่วยดูดซับสารพิษและฝุ่นละอองที่ปะปนอยู่ในอากาศได้ดี เป็นต้นไม้ที่ชอบความชื้นและแสงแดดในระดับปานกลาง การรดน้ำควรรดให้โดนใบอยู่เสมอเพื่อชะล้างสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่ตามใบ จะช่วยฟอกอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
5. ต้นไม้ฟอกอากาศ กวักมรกต
กวักมรกตเป็นไม้ฟอกอากาศอีกประเภทหนึ่งที่ดูแลรักษาง่าย ต้นอวบใบหนาสวยงาม เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่มีแสงแดดรำไร โตช้า จึงปลูกได้ในที่แคบ มีคุณสมบัติช่วยดูดซับสารพิษได้เป็นอย่างดี เหมาะมากสำหรับปลูกในคอนโดหรืออพาร์ทเมนท์ในเมืองใหญ่ ที่สำคัญไม้ฟอกอากาศชนิดนี้เป็นหนึ่งในไม้มงคล เชื่อกันว่าปลูกแล้วจะช่วยกวักเงินกวักทองและโชคลาภ เรียกทรัพย์เข้าบ้าน ดังนั้นใครที่อยากเสริมความเฮงให้กับบ้านพร้อมทั้งได้อากาศที่สะอาดบริสุทธิ์ไปในตัว ต้นไม้ประเภทนี้เป็นคำตอบที่น่าสนใจเลยทีเดียว
การปลูกต้นไม้ฟอกอากาศเป็นวิธีการปรับปรุงคุณภาพอากาศด้วยแนวทางธรรมชาติที่ประหยัดและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ช่วยลดฝุ่นละอองและสารพิษที่ปะปนอยู่ในอากาศได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังใช้ประดับบ้านช่วยให้บรรยากาศของบ้านดูสดชื่นมากขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามเมื่อปลูกแล้วก็อย่าลืมดูแลรักษาอย่างถูกวิธี จัดวางในตำแหน่งที่ถูกต้องและรดน้ำในปริมาณที่เหมาะสม ต้นไม้จะได้เขียวสดใสอยู่คู่บ้านของเราไปนานๆ